Lucky Vansมีความภูมิใจเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว ณ แหล่งโอโซนบริสุทธิ์อันดับ 7 ของโลก เพลิดเพลินไปกับเส้นทางในม่านหมอกร่วมทริปสุขใจ ไปกับการเดินทางสู่ความฝันที่คุณและใครๆ ก็สามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง และที่สำคัญ ตอนนี้วังน้ำเขียวกำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮ๊อตฮิต ติดอันดับของสถานที่ท่องเที่ยว ในบ้านเราค่ะ
ทริปนี้ เป็นทริปของครอบครัว VIP ลูกค้าโทรมาจองรถตู้กับเรา และให้ทีมงาน Lucky Vans จัดโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวให้ค่ะ ทีมงานเราเห็นว่าเป็นทัวร์แบบครอบครัว ที่มีหลายรุ่น ต่างวัย แต่ใจตรงกัน เราเลยจัดทริปที่สามารถไปกันได้ทั้งครอบครัว แบบชิว ๆ สบาย ๆ ค่ะ มาลองดู package โปรแกรมทัวร์สำหรับครอบครัวกันนะคะ
08.00 น. Lucky Vans รับลูกค้า VIP ณ ที่พัก ขนกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถ และออกเดินทางโดยรถตู้ VIP ป้ายแดงคันล่าสุดของเรา มุ่งหน้าสู่ อ.วังน้ำเขียว จ .นครราชสีมา ระหว่างทางมีบริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดการเดินทางค่ะ
เราแวะถ่ายรูป และชมธรรมชาติระหว่างกันมาเรื่อยๆค่ะ เนื่องจากทุกคนในกรุ๊ปทัวร์ไม่ได้เร่งรีบ และอยากสัมผัสธรรมชาติกันอย่างเต็มอิ่ม
11.00 น. นำท่านเดินทางมาถึงอ.วังน้ำเขียว และมุ่งหน้าสู่ ร้านอาหาร “ครัวริมเขื่อน” อาหารที่นี่บอกได้เลยค่ะ ว่าอร่อยทุกเมนู ประทับใจค่ะ
12.30 น. หลังจากที่อิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันอันแสนโอชา กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ต่างอยากงีบกันแล้ว และด้วยเป็นทริปที่มีคุณตาคุณยาย และคุณหลานตัวน้อยด้วย เลยต้องการสถานที่พักสายตาตอนกลางวัน เพื่องีบเอาแรงกันซักเล็กน้อยค่ะ ……. เราจึงตัดสินใจ Check-in เข้าที่พักค่ะ “เคียงหมอกชาเล่ย์”... เป็นรีสอร์ทท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ สายหมอก และเนินเขาที่สลับซับซ้อนของอำเภอวังน้ำเขียว ที่พักที่นี่ เหมาะสำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบความเเป็นธรรมชาติ โดยเน้นความเรียบง่าย เงียบสงบเป็นส่วนตัว บ้านพักตกแต่งได้สวยและลงตัวทุกมุมมองค่ะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ลมพัดเย็นสบาย เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าอากาศเย็นตลอดทั้งปี และมีสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดให้ชมรอบบริเวณที่พักค่ะ ...ขอแอบกระซิบว่า เจ้าของรีสอร์ทน่ารักมากๆ อัธยาศรัยดี เป็นกันเอง ที่สำคัญบริการดีมากๆเลยค่ะ...ประทับใจ และขอขอบคุณจากใจจริงนะคะ
14.00 น. หลังจากพักผ่อนตามอัธยาศรัยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หนุ่มสาวที่แรงยังดี ก็ออกเดินทางไปยังตลาดสด เพื่อหาซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเย็นกันค่ะ ตลาดนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พักค่ะ พี่คนขับรถเค้ารู้จักเส้นทางดีเลยพาเราไปหาซื้ออาหารสำหรับมื้อเย็นได้ไม่ยากเลยค่ะ ขอบอกว่าดินเนอร์ของเรามีบาร์บีคิวปิ้งๆย่างๆด้วยนะคะ หรือหากใครไม่สะดวก ทางรีสอร์ทเค้าก้อมีบริการสั่งอาหาร Delivery ได้ค่ะ
15.30 น. ช่วยกันเตรียมอุปกรณ์สำหรับดินเนอร์เย็นนี้กันค่ะ ...ขอขอบคุณเตาปิ้งย่างที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ลูกค้าของเราด้วยนะคะ...ครอบครัวที่มานี้ ต่างทำหน้าที่ของตัวเองกันอย่างดีค่ะ ใครถนัดเป็นเชฟมือทองก็ปรุงกันไป ใครถนัดนั่งจิบก็จัดกันไปนะคะ แต่ที่แน่ๆ คือมีกิจกรรมสำหรับเด็กๆ คือจานร่อน และโบว์ลิ่ง กลางสนามหญ้าอันกว้างขวางของรีสอร์ทแห่งนี้ด้วยค่ะ....ชิมไป เล่นไป จนถึงเวลาอาทิตย์อัสดง ก็เตรียมเก็บข้าวของค่ะ เพราะฝนก็เตรียมตั้งเค้ามาทักทายด้วยค่ะ
18.00 น. ที่นี่มืดเร็วมากค่ะ 6 โมงเย็น ก็ต้องเปิดไฟแล้วค่ะ แต่ขอบอกว่าโรแมนติกมากกกกก......อากาศเย็นๆ กับความมืดที่เข้ามาปกคลุม มันช่างเป็นบรรยากาศที่หาได้ยากมากที่บางกอกบ้านเราค่ะ ด้านหน้าห้องพักสามารถมองเห็นทิวเขาค่ะ พระอาทิตย์ตกตรงนี้พอดี สวยมากกกกกกกกก ...เข้าห้องพักมีแอร์ค่ะ ใช้ได้ทีเดียวค่ะ.....
21.00 น. วันนี้ขอ Good Night ก่อนนะคะ....พรุ่งนี้จะตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ค่ะ
06.00 น. ตื่นมาตอนเช้านึกว่า มาเที่ยวตอนเดือนธันวาค่ะ!! ทั้งที่จริงๆแล้ว ทริปนี้เราจัดกันช่วงปลายเดือนกันยา.....ตอนเช้าอากาศดีจริง ๆ ค่ะ ไม่ได้หนาวจนต้องสวมเสื้อหนา ๆ แค่เสื้อแขนยาวก็พอค่ะ
07.00 น. ข้าวต้มอุ่นๆ จากรีสอร์ท นำส่งถึงระเบียงหน้าบ้านค่ะบอกได้คำเดียวค่ะ ว่า เยี่ยม!!...รสชาติอร่อยได้ใจ แต่ ครอบครัวนี้เตรียมตัวมาอย่างดี มี American Breakfast ไข่ดาว ไส้กรอก ด้วยนะคะ ได้ข่าวว่าทอดไส้กรอกกันที่หน้าระเบียงบ้านตอนเช้าเลยค่ะ เจ๋งจริงๆเลยนะคะ....ทีมงานนี้
09.00 น. พี่คนขับรถเตรียมตัวพาออกเดินทาง ไปยัง สวนลุงไกร ซึ่งเป็นสวนเพาะปลูกแบบการเกษตรสมัยใหม่ ชมสวนผักสลัดและผักปลอดสารนานาชนิด บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ โดยเฉพาะผักสลัดมีมากถึง 6 สายพันธ์ อาทิ สลัดแก้ว สลัดคอร์ส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดลีฟ บัตเตอร์เฮด จนได้การรับรอง ISO ย่าโม ปี 2543 ผักสดคุณภาพสูงจากที่นี่ ยังถูก ส่งขายให้กับบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่หลายแห่งรวมถึงโรงแรมชื่อดัง อาทิ Pizza Hut, The Pizza, Sizzler โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมดุสิตธานี และโรงแรมโอเรียนเต็ล
10.00 น. เดินทางไป วังน้ำเขียวฟาร์ม ที่นี่เป็นฟาร์มเห็ดหอมที่ใหญ่สุดในภาคอีสาน มีการเพาะเห็ดหอมสด เห็ดโคนญี่ปุ่นสด เห็ดออริจิ เห็ดภูฐาน โรงงานเห็ดที่นี่ ด้านหน้าฟาร์มตกแต่งได้น่ารักดีค่ะ
มีของฝากที่ทำจากเห็ดหลายอย่างเลยนะคะ
11.00 น. จากนั้นเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติทับลาน จุดชมตะวันตกดินที่สวยงาม แต่เรามากันตอนเกือบเที่ยงค่ะ...เลยไม่ได้เห็นตะวันตกดินค่ะ..... เด็กๆ สามารถสนุกกับการปลูกป่าแนวใหม่ คือการใช้หนังสติ๊กยิงกล้าไม้ ออกไปสู่ป่าใหญ่ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวเห็นความสำคัญของธรรมชาติป่าไม้การมีกิจกรรมยิงหนังสติก ปลูกต้นมะค่าทำให้ได้มีโอกาสเห็นจ.ปราจีนบุรี เมื่อมองจากเนินเขาลงมาด้านล่าง...นี่ขนาดมาตอนแดดเปรี้ยงกันนะคะ ลูกค้าของเรายังบอกว่า สวยเกินบรรยายค่ะ
12.00น. หม่ำๆ อาหารกลางวันกันที่ บ้านปลาเผา ที่ตั้งของร้านอยู่บนเนินสูงเวลารับประทานอาหาร สามารถมองเห็นวิวของทิวเขาได้รอบด้านเรียกได้ว่าทั้งอิ่มอร่อยและเพลิดเพลินใจในเวลาเดียวกัน ร้านนี้แต่งได้น่ารักดีค่ะ อาหารก็อร่อยค่ะ เราเลยสั่งอาหารจากร้านนี้ กลับไปเป็นมื้อเย็นด้วยค่ะ....อร่อยของจริง
14.30 น. กลับที่พัก เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศรัยค่ะ
16.00 น. เห็นฟ้าฝน เริ่มตั้งเค้ามาแต่ไกล เราจึงเตรียมอาหารเย็นกันอย่างเร็วกว่าที่นัดกันไว้ค่ะ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากัน ณ ระเบียงบ้าน เคียงเพื่อน+เคียงกัน และจัดอาหารเย็น เมนูจากร้านบ้านปลาเผา
17.30 น. ฝนเอยฝนตก!!!.........เลยต้องหลบเข้ามาดินเนอร์กันในบ้าน...ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ....มีบางคนแอบคิดว่า ถ้าเป็นช่วงเดือนธันวา คงไม่ต้องหลบฝนแบบนี้...และคงมีโอกาสกลับมาวังน้ำเขียวอย่างแน่นอน เพราะประทับใจหลายอย่าง.....สวิตแลนด์แดนอีสานจริงๆค่ะ
20.00 น. ติดตามข่าวสารบ้านเมือง รวมถึงข่าวดารา และวงการบันเทิงที่กำลังเป็นที่ Hot Hit ... ก่อนจะเข้านอน...พี่คนขับรถบอกว่า พรุ่งนี้ ก่อนกลับบางกอก จะพาไปทำบุญค่ะ...ดีจัง!!!
เช้าวันที่ 3------เตรียมตัวกลับบางกอกค่ะ
06.00 น. ตื่นมาตอนเช้าก้อเตรียมแพ็คเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเตรียมกลับบางกอก
07.00 น. ข้าวต้มหมูสับอุ่นๆ จากรีสอร์ท นำส่งถึงระเบียงหน้าบ้านเช่นเคยค่ะ....วันนี้มีผัดผักบุ้งแถมด้วย
09.00 น. พี่คนขับรถตู้จะพากลับบางกอกแล้วค่ะ แต่ก่อนจะกลับพี่เค้าบอกว่า จะพาเที่ยววัดสรพงษ์... ที่อำเภอสีคิ้ว โคราชก่อนค่ะ
ขับรถไปไม่นานเท่าไรพอเพลินๆ เพราะคนขับก็ขับไป คนนั่งอย่างเราก็หลับสบาย กริ๊กๆๆๆๆ........
อันที่จริง "วัดสรพงษ์" นี่ไม่ใช่วัดค่ะ เป็นอุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งก่อตั้งโดย แรงศรัทธาของคุณ สรพงษ์ ชาตรี มหาเถรคันฉ่องในภาพยนต์สมเด็จพระนเรศวรแห่งสยามประเทศ ดาราที่ใครๆ ก็รู้จัก ผู้คนเลยเรียกชื่อที่นี่ว่า วัดสรพงษ์ ซะเลย สะดวกปากดีค่ะ แห่ะแห่ะ
สถานที่ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว ก่อนถึงโคราช 45 กิโลฯ …จุดเริ่มของที่นี่ คือเมื่อปี 2541 ด้วยแรงศรัทธา และนับถือต่อสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จึงตั้งใจจะสร้างให้เป็นมูลนิธิ ไม่มีวัด ไม่มีพระสงฆ์ สร้างขึ้นเพื่อให้คนที่เคารพบูชาสมเด็จโตเข้าไปกราบไว้ สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือสังคม เป็นมูลนิธิที่ส่งเสริมการเรียนการสอนของเด็กด้อยโอกาสค่ะ
โมเดลของวิหารแบบสมบูรณ์ ก็งดงามสมราคาจากเงินบริจาคกว่า 300 ล้านบาทค่ะ เริ่มจากบนพื้นที่โล่งๆ 15 ไร่เมื่อสิบปีที่แล้ว จนมาถึงวันนี้ใกล้สมบูรณ์แล้ว องค์สมเด็จโตนี้ หล่อมาจากทองเหลืองหนัก 61 ตันนะคะ สูงเท่าตึก 2 ชั้น ตอนหล่อทองเหลือง หล่อเป็นชิ้นๆ ทั้งหมด 127 ชิ้น แล้วนำมาเชื่อมต่อกันภายหลัง
คุณสรพงษ์เคยให้สัมภาษณ์ว่า
"ผมผ่านทั้งความเหน็ดเหนื่อย ความท้อ ก็จุดธูปอธิษฐานขอพรว่าหลวงพ่อโต ถ้าดี ขอให้มีคนช่วย ถ้าไม่ดี ขอให้สร้างไม่สำเร็จ และสุดท้ายก็ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาได้ด้วยดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปนั้นคุ้มค่า เกิดมาชาติหนึ่งร่างกายเราสมบูรณ์ได้ ทำอะไรช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติได้ อุทิศตนได้ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อให้ได้เห็นหลวงปู่ได้เห็นความเจริญงอกงามของงานที่ตนทำ"
ก่อนจะปิดท้ายว่า "เราไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอก ไม่ต้องมีเงินถึง 300 ล้าน แต่ก็สามารถช่วยเหลือ ทำประโยชน์ให้แก่สังคมได้ แค่เป็นคนดีก็เพียงพอ"
เป็นอันว่าจบทริปครึ่งวันนี้ ที่วิหารสมเด็จโต แล้วเราจะออกเดินทางเพื่อหาอาหารมื้อกลางวันทานกันค่ะ
และภาคบ่ายเราจะได้ไปต่อกันที่ “ฟาร์มโชคชัย” เพื่อหาซื้อของฝาก ให้เพื่อนๆชาวบางกอกกันค่ะ
ก่อนปิดท้ายทริปนี้ Lucky Vans ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้ลูกค้าทุกท่าน รวมทั้งเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านทริปประทับใจ มีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ และแวดล้อมไปด้วยคนดีที่รักของทุกท่านนะคะ
ติดตามทริปประทับใจได้ในครั้งหน้านะคะ….สวัสดีค่ะ
......ขอบคุณภาพสวยๆ ที่ลูกค้าผู้น่ารักของเราแบ่งปันมาให้นะคะ.....



