"ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานต์กวี คนดีศรีอยุธยา"
สวัสดีอยุธยาค่ะ
หลายคนรู้จักอยุธยาดี เนื่องจากอยุธยา เป็นราชธานีเก่าแก่กว่า 700 ปี และองค์กร UNESCO ยกย่องให้อยุธยาเป็น มรดกโลก เพราะเป็นเมืองที่มีวัดและสถานที่ทางประวัติศาสตร์นับร้อยแห่ง
ถ้าจะให้ LuckyVans แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวก็คงไม่หมดแน่ค่ะ แต่หากท่านใด ที่ต้องการเที่ยว อยุธยา แบบไปเช้าเย็นกลับ หรือ ที่เรียกว่า “One Day Trip” เราก็พอจะแนะนำได้ ซึ่งมีกิจกรรมหลักอยู่ 3 อย่าง ที่พลาดไม่ได้ คือ
1. ไหว้พระ 3 วัดดัง ได้แก่ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิง วัดมงคลบพิตร
2. เที่ยวเมืองเก่า เช่น วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดไชยวัฒนาราม
3. รับประทานอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา
หากเราใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย จาก กรุงเทพฯ - อยุธยา ทางหลวงหมายเลข 309 ระยะเวลาในการเดินทาง ประมาณ 1-2 ชม ค่ะ ขึ้นอยู่กับ ออกเดินทางจากจุดไหนของกรุงเทพ
ทริปนี้เราเดินทางถึงอยุธยา เวลาประมาณ 9 โมงเช้า เราเริ่มจากการเดินทางตรงไปยัง วัดใหญ่ชัยมงคล (เลี้ยวซ้ายจากถนนใหญ่เข้าตัวเมือง จะเห็นวงเวียนที่เป็นเจดีย์ ให้เลี้ยวซ้าย ขับมาเรื่อยๆ แล้วจะเห็นวัดอยู่ซ้ายมือ) แนะนำให้ไหว้พระประธานก่อน แล้วเดินชมเจดีย์และองค์พระเก่าๆ รอบๆวัด จุดที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ พระนอน และเจดีย์เก่าๆ รอบๆวัดมีสนามหญ้าสีเขียวสดตัดกับซากเจดีย์สีแดง
หลังจากนั้น คณะเราได้เดินทางไปยัง วัดพนัญเชิง (วัดหลวงพ่อโต) ซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ในแต่ละวันจะมีคนเข้าไปนมัสการองค์ท่านกันเป็นจำนวนมาก และเรายังสามารถแวะซื้อของฝาก ซึ่งวางขายบริเวณหน้าวัดได้อย่างมากมายเลยค่ะ
ตีรถออกทางเดิม ถึงวงเวียนเจดีย์แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปไหว้พระที่ วัดมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งอยู่ติดกัน ที่นี่ถ่ายรูปสวยเช่นกันค่ะ ถ่ายรูปแล้วเดินช๊อปปิ้งร้านค้าแถวบริเวณวัดได้อีกค่ะ
วัดต่อไปคือ วัดไชยวัฒนาราม ที่นี่เป็นอีกแห่งที่บรรดานักถ่ายรูป (และพวกที่ชอบถูกถ่ายรูป)ไม่ควรพลาด พื้นหญ้าสีเขียวสดตัดกับสีอิฐของเจดีย์ สวยมากๆค่ะ ที่นี่น่าเสียดายอยู่อย่างนะคะ เพราะเวลาหน้าฝน น้ำมักขึ้นมาท่วมอยู่เป็นประจำเพราะวัดนี้อยู่ติดแม่น้ำค่ะ
แล้วก็ได้เวลาอาหารกลางวัน ขอแนะนำให้เลือกร้านที่มีวิวติดแม่น้ำ แนะนำให้เลือกร้านที่อยู่บน ถ.อู่ทอง (เพราะถนนนี้ติดแม่น้ำค่ะ)หลังจากรับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายเราเดินทางไปเยี่ยมชมพระราชวังบางปะอินกันค่ะ
ประตูทางเข้าชมพระราชวังบางปะอิน
เดิมเป็นที่ประทับของพระเจ้าปราสาททองในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยได้สร้างพระตำหนักกลางน้ำหลังหนึ่ง คือพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และสร้างวัดในบริเวณใกล้เคียงกันให้ชื่อว่า วัดชุมพลนิกายาราม
แม้เชื่อกันว่าบางปะอินจะเป็นที่เสด็จประพาสของกษัตริย์อยุธยาตั้งแต่นี้มา แต่หลังการเสียกรุงเมื่อปี พ.ศ. 2310 ก็ทำให้บางปะอินและบริเวณแถบนี้กลายเป็นที่รกร้าง
พระราชวังบางปะอินกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเมื่อสุนทรภู่ ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไปนมัสการ พระพุทธบาทสระบุรี ได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท
จนกระทั่ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เริ่มการบูรณะพระราชวังขึ้น และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้บูรณะครั้งใหญ่ โดยสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นที่ประทับ รับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ
สถานที่สำคัญในพระราชวัง
พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงใช้เป็นท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการ ปัจจุบันใช้เป็นที่ประทับเมื่อมีการเสด็จแปรพระราชฐาน
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโดยพระราชทานเงิน 70 ชั่ง (ประมาณ 5,600 บาท)
มองเห็นแต่ไกล...หอวิฑูรทัศนา พระที่นั่งหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลางเกาะน้อย สูง 3 ชั้น 12 เหลี่ยม เป็นหอส่องกล้องชมภูมิทัศน์รอบพระราชวัง
พระที่นั่งไอศวรรยทิพยอาสน์ เป็นมหาปราสาทโถงกลางน้ำ ถอดแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ "เก๋งจีน-เทียน เม่ง เต้ย" (เทียน=เวหา, เม่ง=จำรูญ, เต้ย=พระที่นั่ง) พ่อค้าชาวจีนร่วมกันสร้างถวายเมื่อปี พ.ศ. 2432 เป็นอาคารแบบจีน 2 ชั้น ทั้งช่างและวัสดุเครื่องไม้แกะ และเครื่องตกแต่งต่างมาจากประเทศจีน มีกระดูกอูฐที่แกะสลักสวยงามมากๆ
หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททอง เป็นปรางค์ศิลาในเขตพระราชวังชั้นนอกริมสระ ใต้ต้นโพธิ์ เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้นแทนศาลเดิมที่ชาวบ้านสร้างไว้ อุทิศถวายพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2422
เก๋งบุปผาประพาส สร้างไว้ทรงประทับชมดอกไม้
เรือนแพทรงบาตร
ประตูเทวราชครรไล เป็นประตูระหว่างพระราชฐานชั้นใน-ชั้นนอก
ปัจจุบันพระราชวังบางปะอิน เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ (ห้ามสวมเสื้อไม่มีแขน และ กระโปรง/กางเกงเหนือหัวเข่า) โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00–17.00 น. สอบถามรายละเอียด โทร.035-261044, 035-261549, 035-261673
ทริปนี้ เป็นอีกหนึ่งทริปประทับใจ ที่เราภูมิใจนำเสนอ เนื่องจากเป็น VIP ชาวต่างชาติ ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจัง ในการเดินทางท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก ดังเช่นเมืองอยุธยา
LuckyVans ขอขอบพระคุณที่ทุกท่านได้ให้เกียรติทีมงานของเรา นำคณะของท่านเที่ยวชมเมืองมรดกโลกในครั้งนี้ค่ะ เราจึงขอรวบรวมภาพประทับใจมาให้ทุกท่านได้ชมกันค่ะ

